- Admin
- 13 MAY 2025
การสื่อสารข้าม Generation ในองค์กร: HR ควรเข้าใจอะไรบ้าง?
การสื่อสารระหว่าง Generation จึงกลายเป็นภารกิจสำคัญที่ HR ต้องใส่ใจ เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างในการทำงาน ไม่ให้เสียความรู้สึก และที่สำคัญคือการส่งเสริมให้ทุกคนในองค์กรร่วมมือกันได้อย่างมีพลัง
บทความนี้จะพาไปดูว่า HR ควรเข้าใจอะไรบ้างในการสื่อสารข้าม Generation และมีแนวทางอะไรที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันราบรื่นมากขึ้น
เข้าใจก่อนว่าแต่ละ Generation คิดและสื่อสารอย่างไร
1. Baby Boomers (เกิดปี 1946–1964)
- ค่านิยม: ความมั่นคง ความจงรักภักดี ทำงานหนัก
- วิธีสื่อสารที่ชอบ: การพูดคุยแบบตัวต่อตัว โทรศัพท์ และการประชุมแบบเจอหน้ากัน
- ทัศนคติต่อเทคโนโลยี: ใช้ได้แต่ไม่คล่องเท่าคนรุ่นใหม่ อาจระมัดระวังเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ
2. Gen X (เกิดปี 1965–1980)
- ค่านิยม: ความเป็นอิสระ สมดุลระหว่างงานกับชีวิต
- วิธีสื่อสารที่ชอบ: Email, โทรศัพท์ และการประชุมที่มีโครงสร้าง
- ทัศนคติต่อเทคโนโลยี: เรียนรู้ได้ไว ปรับตัวได้ดี
3. Gen Y / Millennials (เกิดปี 1981–1996)
- ค่านิยม: การเติบโตอย่างรวดเร็ว ความหมายของงาน ไลฟ์สไตล์
- วิธีสื่อสารที่ชอบ: แชท, วิดีโอคอล, โซเชียลมีเดีย, การประชุมแบบไม่เป็นทางการ
- ทัศนคติต่อเทคโนโลยี: คล่อง ใช้ทุกอย่างแบบ Multi-tasking
4. Gen Z (เกิดปี 1997 เป็นต้นไป)
- ค่านิยม: ความจริงใจ ความหลากหลาย ความยืดหยุ่น
- วิธีสื่อสารที่ชอบ: แชทเป็นหลัก ใช้ emoji, meme, short-form content
- ทัศนคติต่อเทคโนโลยี: Digital Native โตมากับมือถือและอินเทอร์เน็ต
ความท้าทายในการสื่อสารข้าม Generation
1. ใช้ภาษาต่างกัน
คนรุ่นเก่าอาจใช้ภาษาทางการ ขณะที่คนรุ่นใหม่ชอบภาษาสั้น กระชับ หรือแม้แต่สื่อสารด้วย meme หรือ reaction
2. ค่านิยมต่างกัน
Gen Z อาจต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน ขณะที่ Baby Boomers มองว่างานต้องมีวินัยและเวลาแน่นอน
3. ช่องทางการสื่อสารไม่ตรงกัน
HR ส่งประกาศทาง Email แต่ Gen Z ไม่เปิดอ่าน ชอบดูใน Line มากกว่า
4. ความคาดหวังต่อผู้นำต่างกัน
คนรุ่นเก่าเคารพผู้นำแบบอำนาจนิยม แต่คนรุ่นใหม่ชอบผู้นำที่เปิดกว้างและเท่าเทียม
สิ่งที่ HR ควรเข้าใจและลงมือทำ
1. เปิดพื้นที่ให้ทุก Generation แสดงออก
- จัดเวทีที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นโดยไม่ต้องกลัวโดนตัดสิน เช่น Town Hall, Open Forum หรือแบบสอบถามนิรนาม
2. ปรับวิธีสื่อสารให้เหมาะกับแต่ละกลุ่ม
- ใช้หลายช่องทางควบคู่กัน เช่น ส่งประกาศผ่าน Email + Line + Poster
- ลดภาษาทางการในบางบริบท เพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น
3. สร้างวัฒนธรรมการฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening)
- HR และผู้นำทีมต้องฝึกการฟังด้วยใจ ไม่ด่วนสรุป ไม่ใช้คำว่า "เมื่อก่อนเราไม่เคยเป็นแบบนี้"
4. เชื่อมความต่างให้เป็นพลัง
- จัดโครงการ "Buddy ข้ามรุ่น" หรือให้พนักงานต่าง Generation ทำงานร่วมกัน เช่น Gen Z ทำสไลด์ / Gen X ทำเนื้อหา
- เชิญวิทยากรหรือโค้ชมาทำกิจกรรม Team Building แบบ Multigenerational
5. สื่อสารวิสัยทัศน์และเป้าหมายให้ชัดเจน
- คนรุ่นใหม่จะมีพลังมากถ้ารู้ว่าเขากำลังทำงานเพื่ออะไร HR ต้องช่วยให้ทุกคนเชื่อมโยงกับวิสัยทัศน์องค์กรอย่างมีความหมาย
6. ให้ความยืดหยุ่นและเคารพความแตกต่าง
- บางคนอาจไม่ชอบเปิดกล้องเวลาประชุมออนไลน์ ไม่ควรตีความว่า "ไม่ตั้งใจ" แต่ควรถามเหตุผลและหาจุดร่วมที่เหมาะสม
ความต่างไม่ใช่ปัญหา ถ้าเรารู้จักสื่อสาร
การมีหลาย Generation ในองค์กรคือของขวัญ ไม่ใช่ภาระ เพราะทุก Generation มีจุดแข็งของตัวเอง HR จึงมีบทบาทสำคัญในการสร้าง "สะพาน" แห่งความเข้าใจ เชื่อมคนต่างวัยให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น และมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน
อย่าพยายามให้ทุกคนเหมือนกัน แต่ให้ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าในแบบที่เป็น
