รู้ยัง! ประกันสังคมมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร?

Blog Image
  • Admin
  • 22 AUGUST 2024

รู้ยัง! ประกันสังคมมีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร?

ประกันสังคมคืออะไร?
ก่อนที่จะเข้าสู่ประเภทของประกันสังคม เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานกันก่อนว่าประกันสังคมคืออะไร ประกันสังคมเป็นระบบที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการคุ้มครองและช่วยเหลือทางสังคมให้กับผู้ที่เป็นผู้ประกันตน ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์เมื่อเกิดกรณีต่างๆ เช่น การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ การทุพพลภาพ การคลอดบุตร การเกษียณอายุ และการว่างงาน

ทำไมต้องรู้เรื่องประกันสังคม?
ประกันสังคมเป็นหลักประกันที่สำคัญของแรงงานไทยทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานบริษัท ฟรีแลนซ์ หรือแม้แต่อาชีพอิสระ การทำความเข้าใจระบบประกันสังคมจะช่วยให้คุณวางแผนการเงินและชีวิตได้อย่างมั่นคง และสามารถใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

ประกันสังคมมีกี่แบบ?
ในประเทศไทย ประกันสังคมแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่
ประกันสังคมมาตรา 33
ลักษณะของมาตรา 33: ประกันสังคมมาตรา 33 เป็นประเภทที่ผู้ที่ทำงานเป็นพนักงานประจำในบริษัทหรือหน่วยงานต่าง ๆ จะต้องทำ โดยนายจ้างและลูกจ้างจะร่วมกันสมทบเงินประกันสังคมให้กับสำนักงานประกันสังคม โดยแบ่งกันคนละครึ่ง
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ: ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จะได้รับสิทธิประโยชน์ครอบคลุมหลายด้าน เช่น การรักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย การชดเชยเมื่อประสบอุบัติเหตุหรือทุพพลภาพ การคลอดบุตร การเกษียณอายุ และเงินชดเชยเมื่อว่างงาน
ความแตกต่างจากมาตราอื่น ๆ: มาตรา 33 มีการสมทบเงินจากทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ทำให้มีสิทธิประโยชน์ที่ค่อนข้างครบถ้วนกว่า
ประกันสังคมมาตรา 39
ลักษณะของมาตรา 39: สำหรับผู้ที่เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และลาออกจากงานแล้ว สามารถต่อประกันสังคมได้ตามมาตรา 39 โดยผู้ประกันตนจะต้องสมทบเงินเองโดยไม่ต้องมีนายจ้างร่วมสมทบ
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ: สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจะคล้ายกับมาตรา 33 แต่จะไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยกรณีว่างงาน
ข้อดีของมาตรา 39: ผู้ที่ต้องการคุ้มครองทางสังคมต่อเนื่องหลังจากลาออกจากงานสามารถใช้มาตรานี้ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงมาก
ประกันสังคมมาตรา 40
ลักษณะของมาตรา 40: มาตรา 40 เหมาะสำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ เช่น ฟรีแลนซ์ หรือเกษตรกร ที่ไม่มีนายจ้าง โดยสามารถเลือกแผนการสมทบเงินที่หลากหลายตามความสามารถและความต้องการ
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ: สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจะขึ้นอยู่กับแผนการสมทบเงินที่เลือก ซึ่งอาจมีความแตกต่างจากมาตรา 33 และ 39
ความยืดหยุ่นของมาตรา 40: ผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระสามารถเลือกแผนการสมทบเงินที่เหมาะสมกับตนเอง และยังได้รับการคุ้มครองทางสังคมตามความสามารถของตนเอง

อาชีพแบบไหนเหมาะกับประกันสังคมแบบไหน?
การเลือกประกันสังคมที่เหมาะสมกับอาชีพเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการและลักษณะการทำงานของคุณมากที่สุด ในส่วนนี้ เราจะมาดูกันว่าอาชีพประเภทต่าง ๆ ควรเลือกประกันสังคมแบบไหนเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด
พนักงานประจำ (บริษัทหรือองค์กร)
เหมาะกับประกันสังคมมาตรา 33: พนักงานประจำที่ทำงานให้กับบริษัทหรือองค์กรควรทำประกันสังคมตามมาตรา 33 เนื่องจากเป็นรูปแบบที่ได้รับการคุ้มครองครบถ้วนที่สุด ทั้งในด้านการรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การเกษียณอายุ และการชดเชยกรณีว่างงาน การสมทบเงินในมาตรา 33 เป็นหน้าที่ของทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ทำให้การสมทบเงินเป็นไปได้อย่างราบรื่นและมีความปลอดภัยทางการเงินสูง
อดีตพนักงานที่ลาออกจากงาน
เหมาะกับประกันสังคมมาตรา 39: สำหรับผู้ที่ลาออกจากงานแต่ยังต้องการได้รับการคุ้มครองจากประกันสังคม มาตรา 39 เป็นทางเลือกที่เหมาะสม คุณสามารถสมทบเงินเองโดยไม่ต้องพึ่งพานายจ้าง การใช้มาตรา 39 จะช่วยให้คุณยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การรักษาพยาบาลและการเกษียณอายุ แม้ว่าจะไม่ได้รับการชดเชยกรณีว่างงาน
ฟรีแลนซ์/ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
เหมาะกับประกันสังคมมาตรา 40: หากคุณประกอบอาชีพอิสระหรือทำงานเป็นฟรีแลนซ์ที่ไม่มีนายจ้าง มาตรา 40 จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ประกันสังคมมาตรา 40 มีความยืดหยุ่นในการเลือกแผนการสมทบเงินตามความสามารถของคุณ คุณสามารถเลือกระดับความคุ้มครองที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณเองได้
เกษตรกร/แรงงานในภาคการเกษตร
เหมาะกับประกันสังคมมาตรา 40: เกษตรกรและแรงงานในภาคการเกษตรที่ไม่มีนายจ้างควรเลือกประกันสังคมมาตรา 40 เพื่อรับการคุ้มครองทางสังคม การเลือกแผนการสมทบเงินที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์ที่จำเป็น เช่น การรักษาพยาบาล และการคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือทุพพลภาพ
ผู้ประกอบการ/เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก
เหมาะกับประกันสังคมมาตรา 33 หรือ 40: ผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่มีพนักงานสามารถเลือกทำประกันสังคมตามมาตรา 33 สำหรับพนักงานของตนเอง ในขณะที่ตัวเจ้าของธุรกิจเองสามารถเลือกสมทบเงินในมาตรา 40 หากไม่มีนายจ้าง การคุ้มครองในมาตรา 40 จะช่วยให้ผู้ประกอบการได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม

ประกันสังคมเป็นส่วนสำคัญของการคุ้มครองทางสังคมในประเทศไทย การรู้ว่าประกันสังคมมีกี่แบบและแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรจะช่วยให้คุณสามารถเลือกประกันสังคมที่เหมาะสมและตอบสนองต่อความต้องการของตัวคุณเอง แม้ว่าแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างกันในด้านกลุ่มเป้าหมาย การจ่ายเงินสมทบ และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ แต่ทุกประเภทล้วนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการสร้างหลักประกันและความมั่นคงในชีวิตให้กับผู้ใช้แรงงานนั่นเอง